UFABETWIN “น็อตติงแฮม ฟอเรสต์” อดีตแชมป์ยุโรปที่ห่างหายจากลีกสูงสุดนานเกือบ 20 ปี

UFABETWIN

UFABETWIN น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เคยเป็นสุดยอดสโมสรของประเทศอังกฤษ 

UFABETWIN สามารถคว้าแชมป์ยุโรปติดต่อกัน 2 สมัยในยุคหนึ่ง แต่หลังจากปี 1999 สโมสรแห่งนี้ก็ตกชั้นและไม่สามารถกลับมาอยู่ในพรีเมียร์ลีกได้อีกเลย

ปกติทีมที่ประสบความสำเร็จมากๆต้องเหลือทรงอยู่บ้างและไม่ต้องรอนานขนาดนี้ คำถามคือ อะไรคือสาเหตุของความพยายามที่ไม่ประสบผลสำเร็จมานานกว่า 20 ปี?

นี่คือเรื่องราวของ ฟอเรสต์ ตั้งแต่ปี 1999 จนถึงวันนี้ที่พวกเขากำลังเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้น  สร้างชื่อสู่ตกชั้น

หากจะพูดถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์และความสำเร็จของของสโมสร น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ก็คงเหมือนกับเล่าเรื่องราวของยอดกุนซืออย่าง ไบรอัน คลัฟ เพราะ 100 ปีก่อนที่คลัฟจะเข้ามาคุมทีม ฟอเรสต์คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น

UFABETWIN

ยอดโค้ชที่สื่ออังกฤษยกย่องว่ามีฝีปากและวาทศิลป์เหมือน โชเซ่ มูรินโญ่

เชี่ยวชาวแทคติกเหมือน เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ ปลุกใจนักเตะให้ฮึกเหิมได้เหมือนกับ เยอร์เกน คล็อปป์ .. สิ่งนี้อาจจะดูเป็นการยกย่องกันเกินไป แต่หากมองในแง่ผลงานใครจะเถียงหลักฐานเหล่านี้ได้? จากทีมที่ไม่มีอะไรเลยสู่ทีมที่คว้าแชมป์ลีกและคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ณ ปัจจุบัน) ได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มีสโมสรใดจากอังกฤษทำได้

สโมสรนี้น่าจะยิ่งใหญ่กว่าความสำเร็จที่กล่าวมาด้วยซ้ำ หากบรรยากาศในถิ่นซิตี้ กราวด์ เป็นไปอย่างราบรื่น เพราะ คลัฟ มีปัญหากับบอร์ด รวมไปถึงมือขวาของเขา ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ซึ่งถือเป็นเพื่อนสนิทที่สุด และเป็นเพื่อนร่วมงานระดับคู่บุญคู่บารมีเลยก็ว่าได้ ทว่าปัญหาระหว่างทั้งคู่ส่งผลให้เทย์เลอร์เลือกออกไปคุมทีม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในปี 1982

เบื้องหลังของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเกิดขึ้นจากการผิดใจกันอย่างรุนแรงจากการทำงานในช่วงเวลาที่ความสำเร็จและชื่อเสียงเกิดขึ้น เทย์เลอร์ เขียนในอัตชีวประวัติตัวเองว่า คลัฟ ทะเลาะกับเขาหนักมากจนถึงขั้นวางหมัดชกกันมาแล้ว ทำให้มิตรภาพต้องมาถึงทางแยกกันอีกครั้ง (ก่อนหน้านี้เคยแตกหักกันช่วงปี 1973 หลังลาออกจาก ดาร์บี้ แบบแพ็กคู่ แต่กลับมาคืนดีกันได้) และจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่คิดจะคุยกันอีกเลย

เทย์เลอร์ ไปคุมทีม ดาร์บี้ และเริ่มแก้แค้นด้วยการดึงนักเตะตัวหลักของ ฟอเรสต์ ไปหลายคน นั่นยิ่งทำให้ คลัฟ ยิ่งเกลียด เทย์เลอร์ หนักมาก แต่อีกทางหนึ่ง คลัฟ ก็รู้ว่าตัวเองใช้ความเป็นเจ้านายมองข้ามความคิดเห็นและลดทอนคุณค่าของเทย์เลอร์อยู่บ่อยๆ จนเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้

และวันที่ คลัฟ รู้สึกว่าเขาผิดหวังกับตัวเองที่สุดก็คือในปี 1990 ที่ เทย์เลอร์ เสียชีวิต คลัฟ เสียใจกับเหตุการณ์นั้นมาก เขายอมรับว่าเขาควรจะโทรศัพท์ไปขอโทษเทย์เลอร์ และเชื่อว่าหากพวกเขาได้คุยกันแค่ 5 นาที ความโกรธทั้งหมดที่มีก็จะหายไป ปัญหาของลูกผู้ชายนั้นแก้ง่ายนิดเดียว หากยอมลดศักดิ์ศรี เขาก็คงไม่เสียเพื่อนที่ดีที่สุดไปในแบบที่ยังมีเรื่องติดค้างในใจมากมายและไม่ได้บอกลา

UFABETWIN

ความผิดหวังครั้งนั้นทำให้ คลัฟ เริ่มติดเหล้าและหมดแพชชั่นกับการทำงาน

เขาพ่ายแพ้และกลายเป็นผู้ป่วยโรคแอลกอฮอลิซึม หลังจากนั้น คลัฟฟ์ ก็ประกาศเลิกคุมทีมในปี 1993 ถือเป็นอันสิ้นสุดยุคสมัยแห่งความยิ่งใหญ่ของฟอเรสต์ และเปิดประตูสู่ยุคสมัยแห่งความลุ่มๆดอนๆหลังจากนั้น

ยุคแห่งการกินบุญเก่า การหมดไฟในการทำงานของ คลัฟ นำมาซึ่งการตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรกในประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรเสีย ทีมนี้ก็ยังมีนักเตะดีๆอีกไม่น้อย พวกเขายังคงไม่ตกต่ำมากจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เก่งเหมือนเก่า ฟอเรสต์กลายเป็นโยโย่ทีมที่ตกชั้นและเลื่อนชั้นไปๆมาๆ ขาดซึ่งมาตรฐานที่แน่นอน

พวกเขาเปลี่ยนกุนซือแทบทุกปีจาก แฟรงค์ คลาร์ก สู่ สจวร์ต เพียร์ซ จนกระทั่งมาถึงกุนซืออย่าง เดฟ บาสเซ็ตต์ ในปี 1997 เมื่อถึงตอนนั้น หลายอย่างก็เริ่มเข้าสู่ภาวะดิ่งเต็มรูปแบบ พวกเขาซื้อนักเตะที่มีราคาแพงแต่เล่นไม่ได้ นักเตะในทีมส่วนใหญ่ไม่มีความมุ่งมั่น เล่นให้พ้นไปวันๆ มีการจัดการที่แย่จนทำให้เกิดปัญหาภายในหลายเรื่อง

คนที่ออกมาบอกเล่าเรื่องนี้คือ ปิแอร์ ฟาน ฮอยจ์ดองค์ กองหน้าของทีมในยุคนั้นที่เผยว่าทุกคนในทีมอยู่กันแบบเช้าชามเย็นชาม ไม่มีวินัยในการซ้อมและการดูแลตัวเองที่ดี ขณะที่โค้ชอย่าง บาสเซ็ตต์ ก็ซ้อมด้วยวิธีที่โบราณจนไม่สามารถพัฒนานักเตะในทีมได้

“การซ้อมของบาสเซ็ตต์ไม่มีอะไรเลย เบสิกมาก เราแบ่งทีมเล่น  (ข้างละ 5 คน) จากนั้นก็ซ้อมยิงประตู ตัวของบาสเซ็ตต์แทบไม่ได้คุมซ้อมเลยด้วยซ้ำ เขาจะโผล่มาอีกทีก็วันศุกร์ก่อนแข่งโน่น แล้วคุณรู้อะไรไหม? ก่อนแข่งเราไม่เคยถูกห้ามอะไรเหมือนกับที่นักเตะสโมสรอื่นโดนห้ามเลย” ฟาน ฮอยจ์ดองค์ ออกมาเล่าเรื่องนี้ในภายหลัง

“ตรงข้ามกับสนามเหย้าของทีม นักเตะสามารถเดินไปหาอะไรกินได้ตามใจเลย ปีกไก่เหรอ? คาโบนาร่าอัดซอสเยอะๆดีไหมนะ? หรือจะเฟรนช์ฟรายดี? เลือกไปเถอะ คุณกินได้ทั้งหมดโดยไม่มีใครว่า”

ทุกอย่างชัดเจนมากขึ้นด้วยผลงานที่นับวันยิ่งมีแต่เรื่องแย่ลงๆ ในฤดูกาล 1998-99 ฟอเรสต์แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์มโหฬาร 1-8 ในเกมที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ลงเป็นตัวสำรองยิงคนเดียว 4 ประตู และหลังจากนั้น พวกเขาก็ตกชั้นโดยที่ไม่สามารถกลับมาเล่นในลีกสูงสุดได้อีกเลย

เริ่มกันใหม่ หลังจากปี 1999 เรียกได้ว่าเป็นการปิดยุคกินบุญเก่าและต้องเผชิญหน้ากับความจริงว่า พวกเขาจะไม่มีเงินเสริมทัพมากเท่าเดิม ขณะที่นักเตะที่มีอยู่ก็ด้อยคุณภาพเกินกว่าจะทำให้พวกเขาเลื่อนชั้นได้ภายในปีสองปีเหมือนกับในอดีตอีกแล้ว

พวกเขาพยายามจะใช้ทุนก้อนสุดท้ายพลิกให้ทีมเลื่อนชั้นด้วยการใช้เงินกว่า 12 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าเป็นเงินที่เยอะมากๆสำหรับทีมจากลีกรองในต้นยุค 2000s ฟอเรสต์ใช้เงินไปกับนักเตะที่ไม่ได้ความ ไม่ได้สร้างผลงานที่เด่นชัด อาทิ 3 นักเตะอิตาเลียนอย่าง โมเรโน มานนินี่, ซัลวาตอเร่ เมเตรคาโญ่ และ จานลูก้า เปตราชชี่

UFABETWIN